“สงกรานต์” มาจากภาษาสันสฤกตว่า มีความหมายว่าา ก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น เป็นการพูดถึงพระอาทิตย์ที่ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ จึงทำให้นับเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยนั่นเอง

วันที่ 13 เมษายน เป็น วันมหาสงกรานต์ นอกจากนี้รัฐบาลยังกำหนดให้เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” เพื่อให้ลูกหลาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของผู้สูงอายุซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นบุพการีอีกด้วย

วันที่ 14 เมษายน เป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้ามาอยู่ในราศีเมษ ซึ่งถือว่าเป็นการตั้งต้นปีใหม่ (วันเนา) ตามความเชื่อ กล่าววันนี้ไม่ควรทำสิ่งที่ไม่เป็นมงคล ด่าทอ ทะเลาะวิวาทกัน มิเช่นนั้นจะเจอแต่เรื่องไปดีไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้ วันที่ 14 เมษายน ยังถือเป็นถือเป็น วันครอบครัว ของไทยอีกด้วย

วันที่ 15 เมษายน เป็น วันเถลิงศก ถือว่าเป็นวันเริ่มจุลศักราชใหม่

ไม่ใช่แค่ชาวไทยที่มีประเพณีสงกรานต์เท่านั้น แต่ชนชาติอื่นๆ ก็ยังมีเหมือนกัน ทั้งพม่า มอญ ลาว หรือแม้แต่ชนชาติไทยเชื้อสายต่างๆ ที่เป็นส่วนน้อยในจีน อินเดีย ล้วนมีประเพณีสงกรานต์ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนานเช่นเดียวกัน และถือว่าวันสงกรานต์เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ของพวกเขาด้วยเช่นกัน

กิจกรรมในวันสงกรานต์แต่เดิมนั้นไม่ใช่วันที่เราออกมาสาดน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนานอย่างที่เด็กรุ่นใหม่เข้าใจ เนื่องจากวันสงกรานต์ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ จึงเป็นวันที่คนไทยนิยมทำบุญตักบาตรเพราะถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้ตัวเอง และ อุทิศส่วนกุศลนั้นแก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีการรดน้ำซึ่งเป็นการอวยพรปีใหม่ให้กันและกัน การสรงน้ำพระ, การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่, การปล่อยนกปล่อยปลา, ขนทรายเข้าวัด เพราะเชื่อว่าเป็นนิมิตโชคลาภ ให้มีความสุขความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทรายที่ขนเข้าวัดนั่นเอง


ที่มา
http://catholichaab.com/main/index.php/research-and-study/research-and-study/1191-2016-05-13-02-28-33
https://www.sanook.com/campus/948044/
http://www.culture.go.th/culture_th/ewt_news.php?nid=4173&filename=index