ชูโกขุ (Chugoku)
ตั้งอยู่สุดตะวันตกของเกาะหลักฮอนชู ประกอบไปด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ ทตโตริ (Tottori) ชิมาเนะ (Shimane) โอคายามะ (Okayama) ฮิโรชิมะ (Hiroshima) และยามากุจิ (Yamaguchi) ซึ่งถูกแบ่งเป็นสองด้านโดยเทือกเขาจูโกขุ ทางตอนกลางของภูมิภาค ด้านที่อยู่ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นเรียกว่าซันอิน ซึ่งแปลว่าร่มเงาของภูเขา ได้แก่จังหวัดทตโตริ ชิมาเนะ และส่วนตอนเหนือของจังหวัดยามากุจิ ภูมิอากาศของดินแดนทางด้านทะเลญี่ปุ่นนี้ มีแสงแดดจ้าและสดใสในฤดูร้อน ฤดูหนาวอากาศหนาวเย็น
ภูมิภาคชุโกกุ
"Hiroshima"
มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ในประเทศญี่ปุ่นเป็นเมืองที่โดดเด่นอย่างมากในภูมิภาคและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยความงามของธรรมชาติ หลังถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองแห่งนี้ได้ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ฮิโรชิม่ามีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า อนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดะโกะ ปราสาทฮิโรชิม่า และศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ศาลเจ้าลอยน้ำแห่งเกาะมิยาจิม่า จนในปัจจุบันฮิโรชิม่ากลายเป็นเมืองประวัติศาสตร์ ของประเทศญี่ปุ่นที่มีนักท่องเที่ยวมากมายให้ความสนใจ
"Yamaguchi"
ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู ถูกโอบล้อมด้วยทะเล จึงมีทิวทัศน์ธรรมชาติงดงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเลและผลผลิตทางการเกษตร และยังเป็นแหล่งบ่อน้ำแร่ธรรมชาติและป่าเขาที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้ ได้แก่ สะพานไม้คินไตเคียว สะพานไม้โบราณที่สวยติดอันดับหนึ่งในสามของญี่ปุ่น ปราสาทอิวาคุนิ วัดรุริโคจิ เกาะโอมิจิมะ เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุด ทะเลสาบโทคิวะ ที่ราบสูงอาคิโยชิได เมืองปราสาทฮะหงิ และศาลเจ้าโฮฟุ เท็นมังกู เป็นต้น
"Shimane"
ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของภูมิภาคชูโกกุติดชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เป็นดินแดนแห่งเทพเจ้าและเหมืองเงินแห่งตะวันออก เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ตำนานเทพเจ้า อุดมไปธรรมชาติที่สมบูรณ์และงดงาม
ชิมาเนะมีเมืองหลวงชื่อเมืองมัตสึเอะ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบชินจิโกะ ซึ่งเป็นทะเลสาบแห่งที่มีทัศนียภาพที่สวยงามอย่างมากในยามพระอาทิตย์ตกดิน และได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยว ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ ศาลเจ้าโบราณที่สุดของญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ทะเลสาบชินจิโกะ ปราสาทมัตสึเอะ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอิวามิที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มรดกโลกเหมืองเงินอิวามิ นอกจากนี้ยังมีหมู่เกาะโอกิ ดินแสนสวรรค์ซึ่งห่างจากชายฝั่งของคาบสมุทรชิมาเนะไป 50 กิโลเมตร
"Tottori"
อดีตเคยเป็นสมรภูมิสงคราม และเมืองปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขตซันอินในยุคสมัยเอโดะ เป็นที่ตั้งของทะเลทรายที่ใหญ่และมีเพียงแห่งเดียวของในญี่ปุ่น จึงเป็นแหล่งศึกษาวิจัยการเกษตรในพื้นดินแห้งแล้ง นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์ส่งผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เช่น ลูกแพร และยังเป็นต้นกำเนิดการ์ตูนชื่อดังมากมาย
เนินทรายทตโทริ เนินทรายสวยที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น โยชิโอกะออนเซน เมืองปราสาทเก่าคุระโยชิ ทะเลสาบโทโกะ วิหารนางาอิเระโดะในของวัดซันบุทสึจิซึ่งถูกสร้างอยู่ริมผาส ภูเขาไดเซ็น และทตโทริ ฮานะไคโระ ฟลาเวอร์ พาร์ค สวนดอกไม้ในโดมกลมขนาดใหญ่ เป็นต้น
"Okayama"
โอคายามะ ตั้งอยู่ด้านตะวันออกสุดของภูมิภาคชูโกกุ เชื่อมต่อระหว่างเกาะฮอนชู และเกาะชิโคขุจึงเปรียบเสมือนประตูด่านแรกหรือชุมทางคมนาคมที่สำคัญของภูมิภาคนี้ จังหวัดนี้อยู่ติดทะเลในเซโตะโอฮะชิ ทำให้ภูมิอากาศอบอุ่นเหมาะแก่การปลูกผลไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะลูกท้อขาวหวานหอม และผลองุ่นเขียวหวาน ที่สามารถเด็ดชิมได้ตลอดฤดูร้อนจะกระทั่งฤดูใบไม้ร่วง จึงได้ชื่อว่าเป็น อาณาจักรผลไม้แห่งภูมิภาคชูโกกุ นอกจากนี้ยังเป็นถิ่นกำเนิดโมโมทาโร่ นิทานญี่ปุ่น เด็กน้อยผู้ล้มยักษ์ของญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของโอคายามะ ได้แก่ ปราสาทโอคายามะ วัดบิทชูโคคุบุนจิ ย่านประวัติศาสตร์บิคังจิคุแห่งเมืองคุระชิคิ ถ้ำอิคุระ และสวนสาธารณะคะคุซันที่เต็มไปด้วยต้นซากุระกว่าพันต้น เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
- “Peace Memorial Park”
สวนสันติภาพฮิโรชิม่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศเป็นอนุสรณ์สถานให้กับการทิ้งระเบิดปรมาณู ภายในมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ 2 ตึก กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรชิมา และเหตุการณ์ในช่วงที่เกิดระเบิดนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังมี A-Bomb Dome ที่รู้จัก กันในนามของอนุสาวรีย์สันติภาพฮิโรชิมา เป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงสภาพจากวันทีเกิดระเบิดนิวเคลียร์จนถึงปัจจุบัน
- “Itsukushima Shrine”
ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ มีอายุเก่าแก่กว่า 1,400 ปี ตั้งอยู่บริเวณเกาะมิจิยาม่า โดดเด่นด้วยเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่กลางน้ำ ในเวลาที่น้ำขึ้น เสาโทริอิจะดูเหมือนลอยอยู่กลางทะเล แต่เมื่อน้ำลง ก็จะสามารถเดินเท้าไปจากเกาะได้ ภาพความสวยงามนี้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม ในปี ค.ศ. 1996
- “Hiroshima Castle”
ปราสาทฮิโรชิม่า เป็นปราสาทไม้ สูง 5 ชั้น ล้อมรอบด้วยคูน้ำ มีอายุเกือบ 500 ปี หลังเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 1958 ปัจจุบันปราสาท ฮิโรชิม่ากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมซามูไร ภายใน จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวเมืองฮิโรชิม่า
- “Kintaikyo Bridge”
สะพานคินไตเคียว เป็น 1 ใน 3 สะพานไม้โบราณที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น สร้างแบบดั้งเดิมโดยการเข้าชิ้นด้วยสลักสะพาน ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว สะพานนี้ทอดข้ามแม่น้ำนิชิกิ และพุ่งตรงไปยังปราสาทอิวาคุนิ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูที่บานสะพรั่งทั้งสองฝั่ง
- “Lake Shinji-ko”
ทะเลสาบชินจิโกะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองมัทสึเอะและเมืองอิสึโมะจังหวัดชิมาเนะ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์ที่งด เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสัตว์ทะเลน้ำจืดนานาชนิดที่สดอร่อยทั้ง 7 ชนิด ได้แก่ ปลากระพง กุ้งโมโรเกะ ปลาไหล ปลาวะกะสะกิ หอยชิจิมิ ปลาค้อด ปลาชิราอุโอะ ใกล้ๆกับทะเลสาบมีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ได้แก่ ปราสาทมัทสึเอะ พิพิธภัณฑ์ และเกาะ นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่มีออนเซ็นหรือบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่ให้แช่ผ่อนคลายจากความเหนื่อย
- “Izumo Taisha”
ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทฉะ (Izumo Taisha) ตั้งอยู่ในเมืองอิซุโมะ ถือเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ และมีความสำคัญที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ และได้ปรากฏในพงศาวดารและตำนานเรื่องเล่าของชาวญี่ปุ่นมาช้านาน มีตำนานเล่าขานว่า ทุกๆปี ในวันที่ 10-17 เดือน 10 ตามปฎิทินจันทรคติ เทพเจ้าชินโตทั้งหมดจากศาลเจ้ากว่า 80,000 แห่งทั่วแผ่นดินจะมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ญี่ปุ่นจึงถือเดือน10 ตามปฎิทินจันทรคติ เป็นเดือนแห่งเทพ
- “Tottori Sand Dune”
ทะเลทรายทตโตะริ ตั้งอยู่ในจังหวัดทตโตะริ เป็นหนึ่งในสามของทะเลทรายในญี่ปุ่น และเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในสามแห่ง มีบริการเช่ารองเท้าที่ใส่เดินบนทะเลทราย ขี่อูฐเดินเล่นในทะเลทราย ลอยร่มชูชีพและเครื่องร่อนไกลเดอร์อีกด้วย จากริมฝั่งทะเลของทะเลทรายแห่งนี้สามารถสัมผัสได้ถึงความสวยงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่โดนแสงแดดพระอาทิตย์ส่องทำให้สัมผัสได้ถึงความร้อนของทะเลทราย
- “Korakuen Garden”
สวนโคระคุเอ็น สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทโอคายาม่า เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำอาซาฮิ ภายในสวนมีทั้งส่วนพื้นที่โล่งกว้าง เรือนน้ำชา สระน้ำ นาข้าวและศาลเจ้าเล็กๆ โดยสวนโอคายาม่าแห่งนี้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 3 ของสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
แนะนำอาหารการกิน
“Globe fish”
ปลาปักเป้า เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดยามากุจิ มีหลากหลายเมนูยอดนิยม เช่น ฟุกุซาชิมิ หรือปลาปักเป้าแล่บางๆ จนมองเห็นลายของจานผ่านเนื้อปลา ฟุกุฉิริ หม้อไฟปลาปักเป้า และฮิเระซาเกะ สาเกที่ใส่ครีบปลาปักเป้าแห้งลงไปด้วย
“Izumo Soba”
อิซุโมะโซบะ ของขึ้นชื่อของจังหวัดชิมาเนะ ต่างจากโซบะทั่วไปตรงที่เส้นจะ มีสีเข้ม แข็ง และมีกลิ่นหอม เพราะมีส่วนผสมของฟางข้าว ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์มากมาย
“Matsuba Gani”
อาหารอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัดทตโตริ ได้แก่ ปูมัตสึบะ กานิ ได้ชื่อว่าเป็นของเด็ดของจังหวัดนี้โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ปูลอกคราบรวมทั้งมีการกินแพลงตอน คือรับสารอาหารเข้าไปมากในช่วงฤดูร้อน ทำให้ปูที่ตกมารับประทานในช่วงฤดูหนาวมีรสชาติหวาน อร่อยเป็นพิเศษ เมนูที่แนะนำได้แก่หม้อไฟ รวมทั้งแบบย่างก็อร่อยไม่แพ้กัน
“Okayama barazushi”
โอคายามะบาระซูชิ อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดโอคายามะ เป็นชุดข้าวปั้นกับอาหารทะเลสดจากทะเลเซโตะรวมทั้งผักต่้างๆ บนข้าวผสมน้ำส้มสายชู มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ทานกับอาหารทะเลได้รสกลมกล่อม และช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารทะเลอีกด้วย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ความสดของอาหารทะเลและผัก
“Hiroshima Style Okonomiyaki”
พูดถึงอาหารขึ้นชื่อของ Hiroshima ก็คงไม่พ้นโอโคโนมิยากิ ซึ่งมีเอกลักษณ์พิเศษคือ ต้องวางซ้อนเป็นชั้นๆ เน้นใส่ผักกระหล่ำจำนวนมาก และใส่เส้นราเมน-อุด้ง หรือแผ่นแป้งบางๆเหมือนแผ่นเครป ซึ่งต่างจากโอโคโนมิยากิของโอซาก้าที่ผสมแป้งและส่วนประกอบอื่นๆรวมกัน
“Oysters”
หอยนางลมของฮิโรชิม่ามีขนาดใหญ่ หนา และอร่อยเป็นพิเศษ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการส่งออกสูงที่สุดในฮิโรชิม่า และยังมีการเพาะพันธุ์หอยนางรมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น Kaki-no-Dotenabe หรือหอยนางรมหม้อดินอบซอสมิโซะ ถือเป็นอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมาก ชาวเมืองฮิโรชิมามักจะปรุงหอยนางรมทอดราดบนข้าวในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้มีร้านย่างหอยนางรมสดขายให้กับนักท่องเที่ยวมากมายบนเกาะมิยาจิม่า
“Tsukemen”
สึเคเม็ง สไตล์ฮิโรชิม่า มีจุดเด่นอยู่ที่การเสิร์ฟเส้นราเม็งเย็นพร้อมกับกะหล่ำปลีต้ม ไข่ต้ม และผักต้มอื่นๆ พร้อมกับถ้วยซุปสีแดงที่ปรุงขึ้นจากพริก, chili oil และงา ขึ้นชื่อในความเผ็ด สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ถึง 5 ระดับ (หรือใกล้เคียง) วิธีการทานจะต้องคีบเส้นมาจุ่มลงในน้ำซุปก่อนเพื่อให้ได้รสชาติ นอกจากนี้ยังมีบางร้านที่เสิร์ฟสึเคเม็งพร้อมกับน้ำซุป seafood ที่ปรุงขึ้นจาก ปลาซาดีนแห้งตัวเล็ก ปลาแห้งโบนิโต และน้ำซุปสาหร่ายคอมบุ
ของฝากที่ระลึก
“Tsuki De Hirotta Tamago”
สึกิ เดะ ฮิรตตะ ทามาโกะ หนึ่งในของฝากประจำจังหวัดยามากุจิที่ได้รับความนิยม ภายนอกเป็นแป้งเนื้อนุ่ม สอดไส้ครีมคัสตาร์ดหวานพอเหมาะ ผลิตจากไข่และนม ซึ่งเป็นผลผลิตสดใหม่ของจังหวัด
“Wakakusa”
วาคะคุสะ หนึ่งในสามของขนมญี่ปุ่นที่มีชื่อของเมืองมัตสึเอะในจังหวัดชิมาเนะ ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 200 ปี มีรสหวานหอมกลมกล่อมเหมาะสำหรับทานพร้อมชา ขนาดชิ้นพอดีคำ
“Agonoyaki”
ลูกชิ้นปลาอาโงะโนะยากิ เป็นอีกหนึ่งในของฝากมีชื่อของชิมาเนะ ผลิตจากเนื้อปลาบิน มีลักษณะเป็นแท่งยาวถึง 70 เซนติเมตร จะทานเป็นขนม หรือทานเป็นอาหารก็ได้
“Inaba no Shirousagi”
อินะบะ โนะ ชิโระอุซางิ เป็นหนึ่งในของฝากมีชื่อของจังหวัดทตโตริ ภายนอกเป็นแป้งมีลักษณะเป็นรูปกระต่าย มีกลิ่นเนยหอมๆ สอดไส้ถั่วกวนด้านใน ผลิตจากไข่และนม ซึ่งเป็นผลผลิตสดใหม่ของจังหวัด
“Momiji manju”
โมมิจิมันจู ของฝากที่ระลึกที่ขึ้นชื่อของฮิโรชิม่า ทำจากแป้งสอดไส้ถั่วแดงทำเป็นรูปใบเมเปิ้ล นิยมทานกับน้ำชา ถูกคิดค้นขึ้นที่เกาะมิยาจิม่า บริเวณโมมิจิดานิ ซึ่งเป็นจุดชมวิว ใบไม้เมเปิ้ล ปัจจุบันมีไส้ต่างๆมากมายอาทิ ชาเขียว ชีส คัสตาร์ด ช็อกโกแลต เป็นต้น
“Kumanofude Brushes”
80 เปอร์เซ็นของพู่กันในญี่ปุ่น ทั้งพู่กันวาดภาพ พู่กันแต่งหน้า และพู่กันจีน ล้วนแต่ผลิตขึ้นในเมืองคุมะโนะ ด้วยคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ทำให้พู่กันคุมะโนะถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ และได้รับความนิยมจากศิลปินฮอลลีวูดอีกด้วย พู่กันคุมะโนะเป็นผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด ใช้ขนสัตว์ที่เหมาะสมกับจุดประสงค์ของพู่กัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของที่นี่แตกต่างจากที่อื่น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำพู่กันได้ที่พิพิธภัณฑ์พู่กัน Fudenosato Kobo อีกด้วย
“Miyajima’s traditional handicrafts”
งานฝีมือดั้งเดิมของมิยาจิม่า เป็นอีกหนึ่งของที่ระลึกที่มีชื่อ ไม่เพียงแต่จะผลิตภาชนะที่ใช้ในการรับประทานอาหาร เช่น ตะเกียบ ช้อนไม้ ถาดกลม ถาดสี่เหลี่ยม และไม้พาย ยังมีงานฝีมือขนาดจิ๋ว เช่น เสาโทริอิสีแดง และเจดีย์ 5 ชั้น เป็นต้น โดยเฉพาะทัพพีไม้(Shamoji)นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีให้เลือกหลากหลายขนาด และมีการตกแต่งแตกต่างกันไป